สวัสดีครับทุกคน บทความนี้จะเกี่ยวกับประเภทของ WordPress ซึ่งบางคนอาจยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว WordPress มีสองประเภทให้เลือกใช้ครับ นั่นก็คือ WordPress.org และ WordPress.com ครับ เวลาเราจะทำเว็บซักเว็บ เราควรพิจารณาว่าประเภทไหนเหมาะสมกับเราครับ
เริ่มต้นด้วย WordPress.com
ตัว WordPress.com เป็นเว็บที่ให้เราสามารถสร้างเว็บได้ ด้วยการสมัครสมาชิกของเว็บ WordPress.com แล้วเข้าไปสร้างเว็บของเราผ่านผู้ให้บริการเว็บนี้ครับ โดย WordPress.com จะเตรียมเซิฟเวอร์ โปรแกรมจัดการ และพื้นที่การใช้งานให้กับเราไว้ครับ โดยจะมีทั้งแบบฟรี แต่มีข้อจำกัดจำนวนมาก ทั้งในการปรับแต่ง และการใช้งาน แต่หากต้องการให้เว็บมีความสามารถหรือฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้น สามารถปรับแต่งได้มากขึ้น เราจะต้องเสียค่าบริการให้กับทางเว็บนี้ครับ ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือจากทีมงานด้วยครับ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ในลิ้งนี้ครับ >> https://wordpress.com/pricing/
ข้อดีของ WordPress.com
- ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลโฮส ไม่ต้องมีผู้ดูแลระบบ เพราะเราใช้เซิฟเวอร์ของ WordPress.com
- การทำเว็บสามารถทำเองได้ด้วยตัวเอง เพราะระบบมีโปรแกรม WordPress ให้พร้อมใช้งานได้ทันที
- โอกาสที่เว็บจะมีปัญหามีน้อย เพราะ การแก้ไขเว็บต่างๆ จะทำได้เฉพาะ โปรแกรมที่ผู้บริการอนุญาติเท่านั้น เราไม่สามารถนำ Plugin(โปรแกรมเสริม) จากนักพัฒนาภายนอกมาใช้งานเว็บได้
- ความปลอดภัยสูง และโปรแกรมเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการปรับแต่งเว็บมาก เช่น เว็บเว็บบทความ เว็บบริษัท SME
ข้อเสีย WordPress.com
- มีข้อจำกัดในการปรับแต่งเว็บจำนวนมาก เพราะไม่สามารถใช้ Plugin จากนักพัฒนาภายนอกได้
- ค่าใช้จ่ายในระยะยาวสูง
- เว็บมีโอกาสถูกยกเลิกได้ หากมีการละเมิดการใช้งานที่กำหนด
- หากใช้แบบฟรีจะมีโฆษณาติดมากับเว็บ
แบบที่สอง WordPress.org
เป็นแบบที่เราเป็นเจ้าของระบบอย่างสมบูรณ์ โดยการใช้โปรแกรม WordPress ที่เปิดเสรี มีนักพัฒนาทำโปรแกรมเสริม (Plugin) ไว้นำมาใช้งานกับเว็บเป็นจำนวนมาก เราจึงสามารถปรับแต่งหรือเพิ่มฟังก์ชั่นได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่เราจำเป็นต้องหาโฮสหรือเซิฟเวอร์เพื่อลงระบบ WordPress เอง และลงโปรแกรม WordPress ด้วยตัวเอง ตั้งค่าต่างๆด้วยตัวเอง และอัพเดท Plugin ให้ใหม่อยู่เสมอ เราจึงควรจะมีผู้ดูแลเว็บเพื่อคอยดูแลและแก้ไขส่วนนี้
ข้อดีของ WordPress.org
- สามารถปรับแต่งเว็บได้เต็มที่ ด้วยการลงโปรแกรมเสริมที่มีจำนวนมากหรือเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
- เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทุกประเภท เช่น เว็บบทความ เว็บบอร์ด เว็บบริษัท เว็บโรงแรมจองห้องพัก หรือ เว็บขายสินค้า E-commerce
- สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆได้มากกว่า เช่น LINE, Facebook messenger หรือ login เว็บด้วย Google หรือ Facebook เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายในระยะยาวถูกกว่า
ข้อเสียของ WordPress.org
- ทุกอย่างต้องทำเองทั้งหมด ทั้งการหาโฮส การซื้อโดเมนเนมและผูกชื่อกับเว็บ จึงจำเป็นต้องใช้ความรู้ในการจัดการและการตั้งค่าต่างๆ
- โปรแกรมเสริมอาจขัดขวางการทำงานของโปรแกรมอื่นๆ จึงจำเป็นต้องทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเว็บนั้นสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆได้
- ความปลอดภัยน้อยกว่า เพราะยิ่งลงโปรแกรมอื่นๆเพิ่ม ยิ่งเพิ่มช่องโหว่ทำให้เว็บมีความปลอดภัยลดลง จึงควรมีการสำรองเว็บสม่ำเสมอ และอัพเดทโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
- หากลงโปรแกรมเสริมลงไปมาก จะทำให้เว็บทำงานช้ามากขึ้นไปด้วย
- เนื่องจากงงานดูแลรักษาเว็บ มีการปรับแต่งเว็บต่างๆ จึงควรมีผู้ดูแลเว็บเพื่อดูแลส่วนนี้ครับ
ซึ่งหากเราทำเว็บที่ไม่ได้ปรับแต่งมากมายเช่น ลงรูป บทความ หรือทำเว็บเบื้องต้น สามารถเริ่มต้นด้วย WordPress.com ก่อนได้ครับ แต่ถ้าหากต้องการให้เว็บสามารถทำอะไรได้มากขึ้น ปรับแต่งได้มากขึ้น จึงพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ WordPress.org ได้ครับ
No Comments